FOOD SAFETY NEWS
Mandatory food handler vaccines for hepatitis A imposed by Missouri county
ใจความสำคัญของรายงานข่าวนี้คือ...
รัฐมิสซูรีออกพระราชกฤษฎีกา (Ordinance) โดยกำหนดให้ผู้ที่ทำงานในร้านอาหารและเกี่ยวข้องกับการเตรียมอาหารหรือสัมผัสอาหาร รวมถึง โรงอาหารในโรงพยาบาล ในโรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก สถานดูแลผู้สูงอายุ บริการจัดเลี้ยงและร้านอาหารเคลื่อนที่ ต้องได้รับการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis A)
สืบเนื่องจากที่ Franklin Country ในรัฐมิสซูรี มีรายงานการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ มากกว่า 50 ครั้งในปีที่แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีรายงานการระบาดของเชื้อไวรัสตับอักเสบเอใน 29 รัฐ มีผู้ติดเชื้อจำนวนกว่า 23,638 ราย ประมาณ 60% ของผู้ที่ติดเชื้อต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และเสียชีวิตจำนวน 233 ราย โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ของรัฐมิสซูรีกำลังดำเนินการประสานงานกับผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่เข้าข่ายให้เข้าใจและปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าว
ในขณะเดียวกันที่รัฐฟลอริดา เจ้าหน้าที่ตรวจพบพนักงานของร้านอาหาร Ocala ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังพบว่าที่ร้านอาหาร Charlie Horse Restaurant and Lounge มีความเป็นไปได้ที่จะมีการระบาดของเชื้อ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม ถึง 1 สิงหาคม จึงมีการแจ้งให้ลูกค้าที่รับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ร้านดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม ถึง 1 สิงหาคม ควรเข้ารับการวัคซีนภายใน 2 สัปดาห์และลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการที่ร้านตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม ถึง 1 สิงหาคม ควรเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด หากพบว่าแสดงอาการหรือมีความเจ็บป่วยให้รายงานไปยังเจ้าหน้าที่ทันที
...........................
กลับมาที่ประเทศไทย ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายหรือข้อกำหนดใดที่บังคับให้ผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับอาหารต้องรับการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ มีเพียงใน “คู่มือการดำเนินงานสุขาภิบาลอาหาร สถานที่จำหน่ายอาหาร” ซึ่งออกโดยสำนักงานสุขาภิบาลอาหารและน้ำ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กำหนดให้ผู้ประกอบกิจการและผู้สัมผัสอาหารต้องตรวจสุขภาพซึ่งรวมถึง การตรวจเลือดเพื่อหาไวรัสตับอักเสบเอ นอกจากนั้นมีข้อกำหนดตามกฎกระทรวงในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 ที่ว่า ไม่ใช้หรือจ้างวานคนซึ่งเป็นพาหะหรือเป็นโรคดังนี้ โรคเรื้อน วัณโรคในระยะอันตราย โรคติดยาเสพติด โรคพิษสุราเรื้อรัง โรคเท้าช้าง และโรคผิวหนังที่น่ารังเกียจ
...........................
สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมอาหารโดยทั่วไปผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษามักจะแนะนำให้ตรวจหาโรคไวรัสตับอักเสบเอสำหรับพนักงานที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการเตรียมอาหารด้วยสาเหตุที่ว่า ไวรัสตับอักเสบเอสามารถติดต่อได้ทางการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรค ส่วนความจำเป็นในการตรวจหาไวรัสตับอักเสบชนิดอื่นๆ โดยเฉพาะชนิดบีซึ่งติดต่อทางเลือดและสารคัดหลั่งนั้น ควรพิจารณาหลายๆ ปัจจัยร่วมกัน เช่น นโยบายของบริษัท ข้อกำหนดและความเข้มงวดของบริษัทคู่ค้า รวมถึงความเสี่ยงอื่นๆ เช่น มีการใช้มีดหรือของมีคมในกระบวนการผลิต การจัดสรรอุปกรณ์ภาชนะ แก้วน้ำ ช้อนส้อม สำหรับให้พนักงานใช้งาน เป็นต้น
...........................
ในฐานะผู้บริโภคเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ ทางกรมควบคุมโรคแนะนำว่าควรรับประทานอาหาร สุก ร้อน สะอาด ล้างมือ และรักษาสุขอนามัยอย่างสม่ำเสมอ
…...........................
ที่มาของข่าว: https://www.foodsafetynews.com/2019/08/mandatory-food-handler-vaccines-for-hepatitis-a-imposed-by-missouri-county/