การทำความสะอาดเสื้อผ้าที่ใช้ในพื้นที่ High-risk และ High-care
การทำความสะอาดเสื้อผ้าที่ใช้ในพื้นที่ High-risk และ High-care เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย รวมถึง เน็ต หมวก (Protective clothing) ที่พนักงานสวมใส่ในพื้นที่ High-risk และ High-care จะต้องสะอาด การทำความสะอาดอย่างไรถึงจะเรียกได้ว่าเพียงพอสำหรับพื้นที่ High-Risk และ High-care ตามข้อกำหนด 8.7 BRCGS for Food Version 8.

การทำความสะอาดเสื้อผ้าที่ใช้ในพื้นที่ High-risk และ High-care

 

 

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย รวมถึง เน็ต หมวก (Protective clothing) ที่พนักงานสวมใส่ในพื้นที่ High-risk และ High-care จะต้องสะอาด

 

การทำความสะอาดอย่างไรถึงจะเรียกได้ว่าเพียงพอสำหรับพื้นที่ High-Risk และ High-care ตามข้อกำหนด 8.7 BRCGS for Food Version 8.

 

 

In-house Laundry ต้องควบคุมอย่างไร ?

 

หากโรงงานทำการ ซัก-อบ-รีด เอง (in-house laundry) ต้องสามารถทำความสะอาดได้แบบ #ปราศจากเชื้อในเชิงพานิชย์ (Commercial Sterile) หมายความว่า สามารถกำจัดเซลล์ปกติของเชื้อจุลินทรีย์ที่กำลังเจริญเติบโต (Vegetative Form) ซึ่งต้องทำภายใต้สภาวะที่อุณหภูมิ 65C เวลาอย่างน้อย 10 นาที หรือ อุณหภูมิ 71C เวลาอย่างน้อย 3 นาที

 

วิธีปฏิบัติการซักผ้าที่ดีควรทำอย่างไร ?

 

- กำหนดโปรแกรมการซัก-อบ-รีด สำหรับเสื้อผ้าแต่ละชนิด เช่น โปรแกรม A ใช้สำหรับเสื้อผ้าของพนักงานฝ่ายผลิตซึ่งมีคราบสกปรกทั่วไป โปรแกรม B ใช้สำหรับเสื้อผ้าของพนักงานซ่อมบำรุงเนื่องจากมักจะมีความสกปรกมากกว่าและมีคราบฝังแน่น คราบน้ำมัน เป็นต้น

 

- ต้องพิสูจน์ยืนยัน (Validate) ประสิทธิภาพการทำความสะอาด โดยทั่วไปใช้วิธีตรวจสอบเชื้อจุลินทรีย์ที่หลงเหลืออยู่โดย Swab Test และทวนสอบ (Verify) ตามความถี่ที่เหมาะสม

 

- มีการตรวจติดตามอุณหภูมิและเวลาที่ใช้ในการทำความสะอาด (Monitor) ดังนั้นเครื่องซักและอบจึงจำเป็นต้องมีจอแสดงอุณหภูมิและเวลาอย่างชัดเจน (Digital Display)

Note: ผู้รับผิดชอบต้องมีหลักฐานบันทึกกระบวนการซักผ้าในแต่ละวัน เช่น ช่วงเวลา โปรแกรมซัก อุณหภูมิที่อ่านได้ตามช่วงปฏิบัติงานด้วย (Auditor กระซิบมานะคะ ถ้าไม่อยากรับการบ้าน NCs)

 

- น้ำยาทำความสะอาดต้องมีเลขทะเบียนวัตถุอันตราย (อย.วอส.) และได้รับอนุญาตให้ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร

 

- มีการแยก (Segregation) เสื้อผ้าสะอาดและสกปรกอย่างเหมาะสม เช่น แยกห้องหรือบริเวณ แยกตะกร้าจัดเก็บ

 

- ทวนสอบประสิทธิภาพและความถูกต้องของวิธีการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการซักผ้าโดยการตรวจติดตามภายใน (Internal Audit, clause 3.4.1)

...

 

External Contracted Laundry ต้องควบคุมอย่างไร ?

 

หากใช้บริการซัก-อบ-รีด จากบริษัทภายนอก (External contracted service) ต้องมั่นใจว่าผู้ให้บริการมีศักยภาพเพียงพอที่จะบริหารจัดการและทำความสะอาดได้อย่างเหมาะสม นอกจากนั้นยังต้องผ่านขั้นตอนการคัดเลือกผู้ให้บริการ (clause 3.5.3.2) รวมถึงต้องได้รับการประเมินและตรวจสอบ (Audit) ตามความถี่ที่เหมาะสม

 

 

ข้อห้ามในการซักผ้าที่ต้องจดไว้!!!

 

- ไม่อนุญาตให้พนักงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ High-risk และ High-care นำชุดกลับไปซักเองที่บ้าน (Home laundry) ซึ่งอนุญาตให้พนักงานนำชุดใส่ทำงานไปซักเองที่บ้านเฉพาะที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ Low risk และพื้นที่ Enclosed Product

 

- การทำความสะอาดเสื้อผ้าในพื้นที่ High-risk และ High-care ต้องแยก (Segregation) ออกจากเสื้อผ้าของพื้นที่ Low-risk อย่างเด็ดขาด เช่น แยกอาคาร แยกบริเวณ แยกเครื่องซัก-อบ แยกที่จัดเก็บเสื้อผ้าสะอาดที่ซักแล้ว

 

นอกจากนั้น เสื้อผ้าที่สวมใส่นานจนเกินไป อาจกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อจุลินทรีย์ซึ่งก่อให้เกิดการปนเปื้อนได้ จึงต้องเปลี่ยนตามความถี่ที่เหมาะสม แต่อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง และที่สำคัญต้องถอดออกแขวนไว้ในห้องเปลี่ยนชุดก่อนออกจากพื้นที่ผลิต และต้องมั่นใจว่ามีเสื้อผ้าเตรียมไว้พร้อมเพียงพอต่อการใช้งานเสมอ…

 

#เพราะซักชุดเพื่อให้สะอาดปราศจากเชื้อจุลินทรีย์…ไม่ใช่แค่ให้มีชุดสวมใส่ทำงาน

 

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ข้อมูลอ้างอิง: BRCGS for Food Version 8, clause 8.7